การดูแลรักษาเฟอร์นิเจอร์ไม้สัก

การดูแลรักษาเฟอร์นิเจอร์ไม้สัก
นอกเหนือจากการตกแต่งบ้านและเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ไม้สักที่มีคุณภาพแล้ว สิ่งสำคัญอย่างมากเลยก็คือการดูแลรักษาเฟอร์นิเจอร์ไม้สักให้สวยงาม คงสภาพเดิมอยู่เสมอ ซึ่งเมื่อเฟอร์นิเจอร์ไม้สักได้ผ่านการใช้งานไประยะนานๆแล้ว ก็จะมีคราบเปื้อน รอยขีดข่วนต่างๆ ที่จะทำให้เนื้อไม้ของเฟอร์นิเจอร์ไม่สวยเหมือนดั่งเหมือน ดังนั้นเจ้าของจึงต้องคอยใส่ใจดูแลและบำรุงรักษาเฟอร์นิเจอร์ไม้สักอยู่เสมอ ซึ่งวิธีการดูแลรักษาเฟอร์นิเจอร์ไม้สักนั้นก็ไม่ยุ่งยาก ว่าแล้วเราไปดูคำแนะนำดีๆเพื่อที่จะทำให้เฟอร์นิเจอร์สุดโปรดของคุณสวยเงางามอยู่เสมอกัน

คราบน้ำตาเทียน
ถ้าหากเฟอร์นิเจอร์ไม้สักมีคราบจากหยดน้ำตาเทียน สามารถที่จะลบรอยดังกล่าวได้ง่ายๆด้วยการใช้สันมีดขูดรอยเทียนไขออกเบาๆ หลังจากนั้นให้ขัดตามด้วยผ้าชาร์มัวร์ หรือผ้าสะอาด

คราบหมึก
ในกรณีที่เฟอร์นิเจอร์ไม้สักมีคราบเลอะหมึกหรือคราบไขมัน ซึ่งถ้าหากเป็นคราบไม่มากก็ใช้กระดาษซับชนิดหนาวางทับที่รอยคราบ หลังจากนั้นให้ใช้เตารีดปรับไฟระดับปานกลางนาบทับลงไปหลายๆครั้ง จนกว่ารอยดังกล่าวจะหายไป หรือใช้สำลีชุบน้ำมันการบูรถูก็สามารถช่วยได้ แต่ในกรณีที่มีคราบหนักจำนวนมากก็ให้ใช้น้ำสะอาดผสมกับน้ำส้มสายชู 1:2 ส่วน จากนั้นนำผ้าสะอาดชุบมาชุบน้ำที่ผสมไว้เช็ดที่รอยเปื้อน ล้างตามด้วยสะอาด หลังจากนั้นนำเฟอร์นิเจอร์ไม้สักไปตากให้แห้งและนำมากลับมาขัดเงา

เฟอร์นิเจอร์ไม้สักมีรอยแตก
ถ้าหากเฟอร์นิเจอร์ไม้สักมีรอยแยกหรือรอยแตกให้ใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ ชุบน้ำให้ชุ่มหลังจากนั้นไปอัดที่บริเวณรอยแตก แล้วนำเตารีดที่มีความร้อนระดับปานกลางแนบตรงบริเวณดังกล่าว โดยใยไม้ที่ได้ถูกกดจะทำการขยายเข้าสู่สภาพเดิม เมื่อเสร็จสิ้นก็สามารถขัดเงาได้ตามปกติ

รอยขีดข่วนบนเฟอร์นิเจอร์ไม้สัก
ในกรณีที่เฟอร์นิเจอร์ไม้สักมีรอยขีดข่วน ดูไม่สวยงาม ให้นำผ้าสะอาดผสมกับน้ำยาเช็ดรองเท้า ที่มีสีเดิมหรือสีใกล้เคียงกับเฟอร์นิเจอร์ไม้สัก หรือผสมกับน้ำมันชักเงาถูกที่ตรงรอยขีดข่วนดังกล่าว และใช้ผ้าแห้งขัดออก

เฟอร์นิเจอร์ไม้สักเป็นรอยด่างขาว
เฟอร์นิเจอร์ไม้สักเป็นรอยด่างขาว สามารถที่จัดขจัดรอยได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการใช้น้ำยาขัดเครื่องเงินเช็ดออก แต่ไม่ควรใช้น้ำยาขัดเงาที่ใช้กับการขัดโลหะมาเช็ด หรืออาจจะเป็นการใช้น้ำมันการบูรถูกที่บริเวณรอยด่างขาว

เฟอร์นิเจอร์ไม้สัก เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ทรงคุณค่าและสวยงามเป็นอย่างมาก ดังนั้น เจ้าของควรจะใส่ใจและดูแลรักษาเพื่อให้เฟอร์นิเจอร์สุดโปรดของคุณสวยงามอย่างยาวนาน